ประกาศต่างๆ ของ สพป.กระบี่ |
|
|
|
 |
 |
 |
|
|
|
 |  |  |
|
|

 |
|
 |
|
งานวิจัยการศึกษา |
|
เรื่อง : การพัฒนารูปแบบการสอนแบบซิปปาโมเดล
เจ้าของผลงาน : เตือนใจ ครองญาติ
อังคาร ที่ 17 เดือน เมษายน พ.ศ.2561
เข้าชม : 4044 จำนวนการดาวน์โหลด : 0 ครั้ง
|
AXTUS
AXTUS Want To Rule The World
|
|
บทคัดย่อ :
บทคัดย่อ
การพัฒนารูปแบบการสอนคณิตศาสตร์แบบซิปปาโมเดล ประกอบแบบฝึกทักษะ “สนุกคิดพิชิตโจทย์ปัญหา เพื่อส่งเสริมทักษะการคิด สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ใช้กระบวนการวิจัยและพัฒนา (Research & Development) โดยมีวัตถุประสงค์ของการวิจัย ดังนี้ 1) เพื่อศึกษาข้อมูลพื้นฐานในการพัฒนารูปแบบการสอนแบบซิปปาโมเดล ประกอบแบบฝึกทักษะ “สนุกคิดพิชิตโจทย์ปัญหา” เพื่อส่งเสริมทักษะการคิด กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่1 2) เพื่อพัฒนาและหาประสิทธิภาพของรูปแบบการสอนแบบซิปปาโมเดล ประกอบแบบฝึกทักษะ “สนุกคิดพิชิตโจทย์ปัญหา” เพื่อส่งเสริมทักษะการคิด กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ตามเกณฑ์ 80/80 3) เพื่อศึกษาผลของการใช้รูปแบบการสอนแบบซิปปาโมเดล ประกอบแบบฝึกทักษะ “สนุกคิดพิชิตโจทย์ปัญหา” เพื่อส่งเสริมทักษะการคิด กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 และ 4) เพื่อประเมินและปรับปรุงรูปแบบการสอนแบบซิปปาโมเดล ประกอบแบบฝึกทักษะ “สนุกคิดพิชิตโจทย์ปัญหา” เพื่อส่งเสริมทักษะการคิด กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 กลุ่มตัวอย่างคือ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1/2 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2560 จำนวน 35 คน ซึ่งได้มาจากการสุ่มอย่างง่าย (Simple Random Sampling) ด้วยการจับสลากรายชื่อห้องในระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ที่ผู้วิจัยรับผิดชอบในการสอน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ ได้แก่ 1) รูปแบบการสอนแบบซิปปาโมเดล ประกอบแบบฝึกทักษะ “สนุกคิดพิชิตโจทย์ปัญหา” 2) แผนการจัดการเรียนรู้ จำนวน 16 ชั่วโมง เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล ได้แก่ 1) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน จำนวน 30 ข้อ มีค่าความยากง่าย (p) อยู่ระหว่าง 0.25 – 0.78 ค่าอำนาจจำแนก (r) ระหว่าง 0.22 – 0.61 และค่าความเชื่อมั่นเท่ากับ 0.88 3) แบบสอบถามครูและผู้เชี่ยวชาญ และ แบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียน จำนวน 10 ข้อ การวิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้ค่าทีแบบไม่อิสระจากกัน (t – test Dependent) ค่าเฉลี่ย ( ) และค่าความเบี่ยงเบนมาตรฐาน(Standard Deviation) ผลการวิจัยพบว่า
1. ผลการศึกษาข้อมูลพื้นฐานในการพัฒนารูปแบบการสอนแบบซิปปาโมเดล ประกอบแบบฝึกทักษะ “สนุกคิดพิชิตโจทย์ปัญหา” เพื่อส่งเสริมทักษะการคิด กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 สรุปได้ดังนี้ 1) ด้านครูผู้สอนเน้นการสอนแบบบรรยาย 2) ด้านผู้เรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนต่ำ 3) ด้านสื่อและแหล่งเรียนรู้มีน้อยมาก 4) ส่งเสริมกระบวนการเรียนรู้เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ 5) ใช้รูปแบบการสอนแบบซิปปาโมเดลพัฒนาทักษะการคิด และ 6) ประเมินผลให้หลากหลายตามสภาพจริง มีรายละเอียดดังนี้
1.1 ผลจากการวิเคราะห์เอกสารและงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง เกี่ยวกับการพัฒนารูปแบบการสอนแบบซิปปาโมเดล ประกอบแบบฝึกทักษะ “สนุกคิดพิชิตโจทย์ปัญหา” เพื่อพัฒนาทักษะการคิด กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 เป็นนวัตกรรมทางการศึกษาในรูปแบบหนึ่งที่ช่วยส่งเสริมให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ โดยผ่านกระบวนการสอนแบบซิปปาโมเดล ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ ผู้เรียนมีการแลกเปลี่ยนความรู้ จัดระเบียบความรู้เพื่อให้จำได้ง่าย ด้วยการเรียนรู้ด้วยแบบฝึกทักษะ มีการทำกิจกรรมกลุ่ม ดังนั้นจากการศึกษาแนวคิด ทฤษฎี เอกสารและงานวิจัยที่เกี่ยวข้องมีส่วนอย่างมากในการพัฒนารูปแบบการสอนแบบซิปปาโมเดล มีการพัฒนาขึ้นเป็นที่น่าพอใจ
1.2 ผลจากการศึกษาข้อมูลพื้นฐานในการพัฒนารูปแบบการสอนแบบซิปปาโมเดล ประกอบแบบฝึกทักษะ “สนุกคิดพิชิตโจทย์ปัญหา” เพื่อพัฒนาทักษะการคิด กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 พบว่า 1) ด้านครูผู้สอนยังใช้การสอนแบบบรรยายถ่ายทอดความรู้ไม่เน้นทักษะกระบวนการเรียนรู้ 2) ด้านนักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาคณิตศาสตร์ต่ำกว่าเกณฑ์ที่โรงเรียนกำหนดคือ ร้อยละ 75 และขาดความสนใจในการเรียน 3) ด้านสื่อและแหล่งเรียนรู้ยังมีน้อยไม่มีประสิทธิภาพ
1.3 ผลการสัมภาษณ์ผู้เชี่ยวชาญ จำนวน 5 คน พบว่า ความต้องการในการใช้รูปแบบการสอนแบบซิปปาโมเดล ประกอบแบบฝึกทักษะ ซึ่งเป็นวิธีการจัดกิจกรรมที่สามารถใช้สื่อการสอนอย่างหลากหลาย มีการนำเสนอเนื้อหาเป็นระบบตามขั้นตอน เพื่อนช่วยเพื่อนเกิดการปฏิสัมพันธ์ที่ดีต่อกันทั้งในและนอกห้องเรียน มีดังนี้ 1) ความต้องการด้านรูปแบบการสอนแบบซิปปาโมเดล ประกอบแบบฝึกทักษะ เพื่อพัฒนาทักษะการคิด มาใช้ในการจัดการเรียนรู้ 2) ความต้องการด้านเนื้อหาที่มีปัญหาในการเรียนรู้ของนักเรียนมาใช้กับรูปแบบการสอนแบบซิปปาโมเดล 3) ความต้องการด้านการจัดกิจกรรมเน้นทักษะกระบวนการนำเสนอเนื้อหาตามลำดับขั้นตอนอย่างเป็นระบบเพื่อจัดระเบียบความคิดของนักเรียน 4) ความต้องการด้านการใช้สื่อและแหล่งเรียนรู้เพื่อให้นักเรียนสามารถองค์ความรู้ได้ด้วยตนเอง เกิดทักษะและประสบการณ์จากการฝึกทักษะการคิดด้วยรูปแบบการสอนแบบซิปปาโมเดล 5) ความต้องการด้านการวัดและประเมินผลตามสภาพจริงที่มีความหลากหลาย และความสอดคล้องกับรูปแบบการสอนแบบซิปปาโมเดล ทั้งแบบทดสอบหรือชิ้นงาน/ภาระงานของนักเรียน 6) ความต้องการจัดการเรียนรู้เน้นทักษะกระบวนการและการฝึกปฏิบัติจริง แลกเปลี่ยนความคิดเห็นร่วมกัน ด้วยรูปแบบการสอนแบบซิปปาโมเดล และ 7) ความต้องการด้านระยะเวลา ซึ่งการจัดการเรียนรู้แต่ละครั้งไม่ควรเกิน 1 ชั่วโมง โดยเฉพาะเด็กเล็กชั้นประถมศึกษาปีที่ 1
2. รูปแบบการสอนแบบซิปปาโมเดล ประกอบแบบฝึกทักษะ “สนุกคิดพิชิตโจทย์
ปัญหา” เพื่อส่งเสริมทักษะการคิด กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 มีประสิทธิภาพ 87.21/84.95 ซึ่งประกอบด้วยขั้นตอนการสอน 6 ขั้นคือ 1) ขั้นสร้างความรู้/ทบทวนความรู้เดิม 2) ขั้นศึกษาหาความรู้ใหม่ 3) ขั้นแลกเปลี่ยนความคิดเห็น 4) ขั้นสรุปผล/แสดงผลงาน 5) ขั้นประยุกต์นำไปใช้
3. ผลการใช้รูปแบบการสอนแบบซิปปาโมเดล ประกอบแบบฝึกทักษะ
“สนุกคิดพิชิตโจทย์ปัญหา” เพื่อส่งเสริมทักษะการคิด กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 มีคะแนนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01
4. ความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียน โดยใช้รูปแบบการสอนแบบซิปปาโมเดล
ประกอบแบบฝึกทักษะ “สนุกคิดพิชิตโจทย์ปัญหา” เพื่อส่งเสริมทักษะการคิด กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 โดยรวม อยู่ระดับมาก ( = 4.46) และเมื่อพิจารณาเป็นรายข้อ พบว่า นักเรียนมีความพึงพอใจต่อการเรียนโดยใช้รูปแบบการสอนคณิตศาสตร์สร้างสรรค์เกือบทุกข้ออยู่ในระดับมาก และข้อที่มีค่าเฉลี่ยสูงที่สุด คือ สามารถนำความรู้ที่ได้รับจากการเรียนไปปรับใช้ในชีวิตประจำวันได้ ( = 4.83) รองลงมาคือ รูปแบบการสอนมีความเหมาะสมในการนำมาใช้ส่งเสริมทักษะการคิด ( = 4.60) และส่งเสริมให้นักเรียนมีความคิดสร้างสรรค์ในการจัดแสดงผลงาน ( = 4.57) ตามลำดับ
|
|
|
|
 |
|
 |
กำลังแสดงหน้าที่ 1/0 ->
<<
1
>>
ข้อความที่ท่านได้อ่าน เกิดจากการเขียนโดยสาธารณชน และส่งขึ้นมาแบบอัตโนมัติ เจ้าของระบบไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆทั้งสิ้น เพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือ ชื่อผู้เขียนที่ได้เห็นคือชื่อจริง ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง และถ้าท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรม กรุณาแจ้งที่ krabiedu@krabiedu.go.th เพื่อให้ผู้ควบคุมระบบทราบและทำการลบข้อความนั้น ออกจากระบบต่อไป
|
|
|
 |  |  |
|